วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

#Bleeding Love ;; Chapter 8




“เฟรม...พี่ขอโทษ”



“หืม ? ขอโทษอะไรพี่คชา ฮ่ะๆ”



“...เจ็บรึเปล่า?



สัมผัสแผ่วเบาบริเวณมุมปากทำให้เฟรมสะดุ้งตัวเล็กน้อยจากความเจ็บที่รอบช้ำแดงทำให้คชาต้องรีบดึงมือตัวเองกลับก่อนจะมองไปยังร่างที่กำลังซี๊ดปากด้วยความเจ็บด้วยสายตาที่เป็นกังวล


 
“เจ็บแค่นี้เล็กน้อยมากพี่~



เพราะใบหน้าหวานที่ดูว่าไม่มีท่าทีจะคลายกังวลทำให้คนมองต้องแสร้งฉีดยิ้มกว้างอวดเก่งแต่เพียงไม่ทันไรก็ต้องหุบยิ้มเก็บดังเดิมอย่างรวดเร็วเพราะความเจ็บแปล๊บบริเวณรอยแดงช้ำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอบเจ็บอยู่ไม่น้อย ก็ไอคนต่อยหน่ะเบามือซะที่ไหนหล่ะ...



“ยังจะมาปฏิเสธอีกเนอะ”



รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานที่กำลังส่ายไปมาคล้ายว่านึกขำกับท่าทางทำเป็นเก่งเหมือนเด็กๆของคนตรงหน้านี้ ก่อนที่มือบางจะยื่นไปสัมผัสที่บริเวณรอยว้ำนั้นอีกครั้งอย่างเบามือที่สุด สีหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงนั่น เฟรมมองสิ่งตรงหน้านี้ด้วยสายตาที่วูบไหว เขาหลงใหลคนตรงหน้านี้มาตลอด รอยยิ้มและสีหน้าท่าทางที่เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลอยากจะปกป้องดูแลคนตรงหน้านี้เหลือเกิน แต่เขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับคนคนนึง คนที่คิดมาตลอดว่าจะดูแลร่างตรงนี้ได้ดีกว่าตัวเอง แต่มาวันนี้ได้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบที่เขาคิดในอดีตอีกแล้ว...



เขาต้องการจะเป็นคนปกป้องร่างตรงหน้านี้เอง...





“...ฟ..เฟรม!...”



“ห๊ะ! มีอะไรหรอพี่?



สีหน้าที่เคยปรากฏรอยยิ้ม หม่นลงอย่างน่าสงสัย ดวงหน้าหวานที่หลุบลงต่ำ ริ้มฝีปากบางเม้มติดกันจนแน่น ห้องทั้งห้องกำลังจะตกอยู่ในความเงียบ ใบหน้าของคชาเงยขึ้นมาสบกับเฟรมอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



“พี่จะกลับไป...”



“ไม่ได้!



เสียงทุ้มแหบของเฟรมดังแทรกขึ้นทันทีโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายพูดจบ



“พี่กลับไปบ้านพี่เต๋าไม่ได้นะพี่คชา!



“ทำไมหล่ะเฟรม!?



“ผม...!



ใบหน้าของคชาขมวดแน่นด้วยความสงสัย ส่วนเฟรมก็สะบัดหน้าหันหนีไปอีกทางก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เขาไม่อยากหลุดอะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจจึงเลือกที่จะหยุดนิ่งไว้แค่นั้น ความเงียบเชียบชวนอึดอัดทำให้หัวใจเหมือนถูกบีบรัด เฟรมเงยหน้าไปมองคนตรงหน้าตนอีกครั้ง 




“มันไม่ปลอดภัยนะพี่...”



“แต่พี่ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะพี่แล้วนะเฟรม...”


 
ไม่อยากจะให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะเขาแบบนี้ เต๋าเป็นคนอารมณ์ร้อน คิดอะไรซับซ้อนไม่รู้ว่าทุกการกระทำนั้นต้องการอะไรกันแน่ เขามองเห็นสายตาของเต๋าก่อนที่จะเดินออกไปจากตัวบ้าน มันเป็นสายตาของคนที่กำลังคิดแค้น สายตาของคนที่มั่นใจว่าตัวเองต้องไม่เป็นพ่ายที่พ่ายแพ้...



“พี่ฟังผมนะ ไม่มีใครเดือดร้อนเพราะพี่หรอก ถึงเราจะเดือดร้อนจริง แต่พวกเราก็เต็มใจนะพี่ โดย
เฉพาะ...”



โดยเฉพาะผม... อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้ น่าสมเพชจริงๆ...



ใบหน้าหวานของคชาพยักขึ้นลงเบาๆ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเฟรมคิดอะไรอยู่ ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ เขาทำอะไรผิดไปทำไมพระเจ้าถึงได้ลงโทษเขา ความรักดีๆที่เคยได้รับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายใจตัวเอง สูญเสียคนรักที่แสนดี สูญเสียบุคคลสำคัญ แล้วยังจะมอบคนคนนึงมาทำดีกับเขาสารพัดอย่างทั้งที่เขารู้ดีว่าจะไม่มีวันหันไปรู้สึกเกินเลยกับคนคนนี้แน่ๆ...



“ผมขอถามพี่ครั้งสุดท้ายนะพี่คชา...”



“...”



“พี่รักพี่เต๋ามากรึเปล่า?



เฟรมยิ้มกว้างทันทีที่พูดจบต่างกัยฝ่ายคนถูกถามที่นิ่งชะงักไป รอยยิ้มนั้นดูผ่านๆก็รู้ว่ากำลังฝืนแค่ไหน



“พี่รักเต๋ามาก...”



“นึกแล้วเชียว ว่าพี่ต้องตอบแบบนี้”



รอยยิ้มจางๆที่ประดับอยู่บนใบหน้าคนฟังอดไม่ได้ที่จะทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ รักใครซักคนโดยที่รู้ว่าไม่มีวันจะสมหวังมันเจ็บแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบาย มันเจ็บเจียนตาย เจ็บจุกจนแทบขยับไม่ได้...



“พี่คชา พรุ่งนี้เราออกไปเที่ยวข้างนอกกันดีกว่า ไปสูดอากาศโล่งๆบ้าง ดีไหมพี่คชา?



“...อื้ม เอางั้นก็ได้นะ...”







กลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งไปทั่วทุกมุมห้องกว้างกับเศษแก้วที่แตกกระจายเต็มพื้น ร่างสูงขาวที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ขอบตาที่เริ่มออกไปทางช้ำแดงบ่งบอกได้ดีว่าผู้เป็นเจ้าของนั้นนั่งดื่มของเหลวสีอำพันในขวดแก้วใสเข้าไปมากเพียงใดและไม่ได้พักผ่อนเลยทั้งคืนจนถึงเช้าวันใหม่



“ไอเต๋า! อื้อหือ~ นี่แกกะกินให้ตายเลยรึไงวะ!?



เสียงของผู้มาใหม่ไม่ได้เรียกสติของเจ้าของห้องให้หันมาสนใจแต่อย่างใด มือขาวซีดยังคงยกขวดดีไซน์หรูขึ้นดื่มไปเรื่อยจนกระทั่งหมด ก่อนที่ขวดไร้ประโยชน์นั่นจะถูกเขวี้ยงไปยังทิศทางหน้าประตูที่มีร่างของอีกคนยืมอยู่ เสียงแก้วกระทบกับพื้นผนังจนแตกกระจายเฉียดฉิวร่างของผู้มาใหม่ไปเพียงเล็กน้อย ทำให้คนโดนประทุษร้ายต้องตระหวัดสายตาอึ้งๆไปยังคนกระทำ



“ไอเต๋า! ถ้ามันถูกหัวพี่จะทำไงวะห๊ะ!!



“เลิกพูดมากแล้วออกไปจากห้องผมได้แล้วพี่ต้น!!



เสียงตะคอกลั่นของเต๋าแทบจะทำให้ต้นอยากจะกวาดเศษซากแก้วที่แตกกระจายเต็มพื้นห้องไปกรอกใส่ปากให้อีกคนหายบ้าถ้าไม่ติดว่าคนคนนั้นเป็นน้องชายของตัวเอง ขาสองข้างค่อยๆพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องกว้างโดยไม่ลืมระวังเศษแก้วที่กระจายเต็มพื้นก่อนจะไปยืมขวางอยู่ตรงหน้าคนที่กำลังนั่งปิดตาจนแน่น ต้นมองสภาพของเต๋าด้วยใบหน้าที่แสนจะเอือมระอา น้องชายเขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหมาจรจัดข้างถนนแม้แต่น้อย



ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าหล่อคมที่เกร็งนิ่วจนคิ้วแทบจะวิ่งมาชนกัน รอยแดงช้ำที่ขอบตา คราบของเหลวที่อำพันที่หกเปลอะเปื้อนเต็มเสื้อ ดูยังไงก็ไม่เป็นคนซักนิดเดียว...



“ทำไมวะเต๋า โดนเขาตบกลับมาแค่นี้ ช๊อคไงไอน้องชาย??



สายตาดุกร้าวตะหวัดกลับมองหน้าคนพูดแทบจะทันที ร่างสูงขาวนั้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องซวนเซไปเพราะฤทธิ์เหล้า ต้นมองดูสภาพนี้ด้วยความเหนื่อยใจ พยายามจะเข้าไปช่วยแต่มือขาวซีดของเต๋าก็ปัดกลับความหวังดีนั้นอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะออกแรงค้ำโต๊ะไว้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มีของตัวเอง



“แค่ตบหน้ามันน้อยไปหว่ะ พี่ต้น!



“แล้วอะไรถึงจะมากพอให้แกกลายสภาพเป็นหมาเน่าอย่างงี้วะเต๋า! อ๋อ~ หรือเป็นเพราะไปตามเขากลับแต่เขาไม่กลับมาด้วยแถมยังไล่แกกลับมาคนเดียวอีก ใช่ไหมเต๋า!?



ความเงียบน่าอึดอัดเกิดขึ้นแทบจะทันทีที่จบประโยคยียวนอารมณ์ ดวงตาแข็งกร้าวของเต๋าปิดลงแน่น ร่างสูงขาวนั้นเซไปด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะพยายามยืนหยัดกายด้วยตัวเองอีกครั้ง คำพูดของต้นนั้นจี้ถูกจุด เต๋าเจ็บใจกับเรื่องนี้มาก...



“เต๋า...แกเลิกทำตัวแบบนี้เหอะ แกยังรักคชาอยู่พี่รู้...ทุกอย่างมันจะกลับไปดีเหมือนเดิมนะเต๋า คชารักแกมากนะเว้ย ตื่นจากความแค้นซักทีเถอะ คชาเขาไม่ได้ผิด คนผิดก็ตายไปแล้ว แกจะเก็บเรื่องในอดีตมาแบกไว้ทำไมให้เจ็บปวดเปล่าๆวะ...”



คำพูดที่ถูกเอ่ยออกมาให้อีกคนได้คิด ใบหน้าของเต๋าอ่อนลงแทบจะทันทีที่จบประโยค ใบหน้าหล่อเงยขึ้นสบกับคนเป็นพี่ก่อนจะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ



“พี่ต้นทุกอย่างมันกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้ มันมีแต่ต้องเริ่มใหม่ พี่รู้รึเปล่า...”



ทันทีที่พูดจบ รอยยิ้มร้ายก็ถูกฉาบบนใบหน้าขาว ความแค้น ความโกรธ ความอึดอัด ความกดดัน และ ฤทธิ์ของสิ่งมึนเมากำลังรุมกันครอบงำสติและความคิดทุกอย่างของเต๋า



รอยยิ้มนั้นไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไหร่นัก ต้นมองการกระทำของน้องชายตัวเองด้วยความกังวล เขาจำมันได้ดีรอยยิ้มแบบนี้ ใบหน้าเต๋าในตอนนี้มันเหมือนกับตอนที่เกิดเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เหตุการณ์ที่เปลี่ยนน้องชายดีๆของเขาให้กลายเป็นเหมือนหมาบ้าที่เต็มไปด้วยความเครียดแค้น...



ปัง!!’



แม่!!!’



เต๋าอย่าเข้าไป ไฟมันลามไปทั่วแล้ว!’



แต่ แม่…!!’



ภาพของเพลิงแดงฉานที่ท่วมลามไปทั่วทุกพื้นที่บ้านหลังใหญ่ ตรงหน้าเป็นภาพของหญิงสูงวัยหน้าตาอ่อนแรงที่นอนเลือดท่วมกายอยู่กลางโถงต้องตัวบ้าน เพราะร่างนั้นพุ่งตรงไปรับลูกกระสุนสีเงินที่ควรจะโดนชายผิดขาวซีดผู้เป็นลูกชายแทน ใบหน้านั้นประดับยิ้มจางๆมองมาทางร่างของคนภายนอกตัวบ้านเพราะเธอนั่นมั่นใจแล้วว่าลูกชายของเธอปลอดภัยดี



ไม่เพียงเท่านั้นร่างของชายสูงวัยคนหนึ่งที่ยืนอยู่เยื้องไปจากตัวบ้านไม่มากนัก ใบหน้านั้นแสยะยิ้มร้ายราวกับว่ากำลังเย้ยหยันพวกเขา ที่ข้างผู้ชายคนนั้นมีชายหนุ่มร่างบอบบางอีกคนใบหน้าหวานนั้นเปลอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เสียงร้องตะโกนที่เริ่มจะแตกแหบ ร่างนั้นถูกฉุดลากไปจนเสียงตะโกนนั่นเริ่มเบาลง



เต๋า! …พ่อปล่อยชาเถอะ..!! เต๋า!! เต๋า...



มันเหมือนความฝันอันเลวร้าย ชายสูงวัยผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนทรยศที่แสนโหดร้ายถูกจับตาย ส่วนชายหนุ่มผู้เป็นลูกที่เขาพาไปด้วยนั้นถูกจับกลับมาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง หยดน้ำตายังไหลออกมาราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหมด ใบหน้าหวานช้อนมองบุคคลที่ตนพร่ำเรียกชื่อจนเสียงแหบแห้งแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นเพียงใบหน้านิ่งเฉย สายตาคมว่างเปล่าจับจ้องยังร่างเล็กที่กำลังสั่นไหว ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มร้ายๆให้เห็นเพียงแค่ชั่ววินาที



ใช่แล้ว ใบหน้าของเต๋าในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับตอนนั้นเลยแม้แต่น้อย....


 
“เต๋า...”



“ผมกำลังจะเริ่มใหม่ไงพี่ต้น ไม่ดีรึไง? อ้อ เดี๋ยวผมของออกไปข้างนอกหน่อยนะ...”



พูดจบมือขาวซีดก็คว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้กับปลายเตียงก่อนจะพยายามพาร่างของตัวเองไปยังห้องน้ำโดยไม่ให้ซวนเซล้มไปซะก่อน



“เห้ย! แกจะไปไหนวะเต๋า สภาพแบบนี้?



“มันหมดแล้ว... จะไปซื้อเพิ่ม”



ปลายนิ้วเรียวชี้ไปยังซากขวดเหล้าเปล่าที่ว่างระเกะระกะบ้างก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ต้นมองตามภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง นี่มันกะกินให้สำลักตายเลยใช่ไหมวะเนี่ย?



“ป้าแม่บ้านครับ ไงก็ฝากเก็บด้วยนะครับ ระวังมันบาดด้วยหล่ะ...”



“ค...คะ คุณต้น”



“อ้อ ค่อยทำตอนไอเต๋ามันออกไปแล้วนะป้า เดี๋ยวมันเหวี่ยงเอา ช่วงนี้มันร้อนเชื้อบ้ากำลังกำเริบ”



ต้นส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินออกไป โดยไม่ลืมจะมองผ่านไปยังประตูห้องน้ำที่มีร่างขาวอยู่ในนั้น... อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีซักที...







“พี่คชาเสร็จยังเนี่ย~



“เสร็จแล้วๆ รีบจริงเหอะ!



เสียงหัวเราะใสๆจางร่างบางที่วิ่งดุ๊กดิ๊กลงมากตากบันได เรียกให้คนที่มองเห็นอมยิ้มไปตามๆกันกับภาพน่ารักๆนี้ 



“อ้าวนั่น จะไปไหนกันหน่ะ?



ร่างสูงของเจมส์เดินเข้ามาก่อนจะยกแขนหนักๆของตัวเองวางพาดไปที่คอเพื่อนรักอย่างเฟรม เรียกให้ใบหน้าของคนโดนกระทำบิดเบี้ยวเพราะเริ่มจะอึดอัดหายใจไม่ออก



“ไปเที่ยวมั่งดิวะ อยู่แต่ในห้อง อึดอัดตายห่า”



คชาหัวเราะเบากับคำพูดโต้เถียงของเฟรมกับเจมส์ ส่วนเจมส์ก็เบ้หน้าไปมาด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะย้ายแขนหนักๆของตัวเองออกจากคอเพื่อนรักแล้วหันไปฉีกยิ้มกว้างให้กับร่างบางที่ยืนอมยิ้มขำ


 
“ครับๆ ~



เจมส์เขยิบเข้ามาใกล้ร่างของเฟรมก่อนจะก้มลงให้ริมฝีปากของตนอยู่ในระดับใบหูคนตรงหน้า



“อย่าลืมที่สัญญากันไว้หล่ะ บักปอม~



เสียงกระซิบแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนเรียกความสงสัยให้กับคชาได้ไม่น้อย ยิ่งเห็นใบหน้าที่นิ่งชะงักลงของเฟรม ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะอยากรู้



“มีอะไรรึเปล่า?



“เปล่าคร้าบบ~ เอ้า ไปกันได้แล้ส อย่ากลับมาเย็นนักหล่ะครับท่านทั้งสอง”



เสียงพูดทีเล่นทีจริงของเจมส์ทำให้คชาหลุดยิ้มขำอีกครั้งก่อนจะออกเดินตามเฟรมไปโดยไม่ลืมที่จะหันมาโบกมือบ๊ายบายเจ้าบ้านอย่างเจมส์






“เฟรม เราจะไปไหนกันหรอ?



“อืมมม... ผมว่าจะพาพี่ไปซื้อพวกของใช้ส่วนตัวหน่ะ”



รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาหลังจากสิ้นเสียงพูด เรียกรอยยิ้มบางๆจากคนมองได้เป็นอย่างดี ร่างเล็กของคชาเอนพิงไปกับเบาะที่เอนรับไว้ ก่อนจะหลับตาพริ้มลง...



ความสุขเล็กๆแบบนี้จะอยู่กับเขาไปได้นานเท่าไหร่กันนะ...



“ถึงแล้วคร้าบบบ เจ้านาย~



“ฮะ ฮื่อออ ถึงแล้วหรอ?



ดวงตาเรียวเล็กกระพริบสองสามทีเพื่อปรับการมองเห็นตรงหน้าก่อนจะค่อยเปิดประตูรถลงมายืนบิดไปมาเพื่อสบายความเจ็บปวดจากการนอนหลับบนรถ แล้วจึงเดินตามร่างที่ออกเดินนำตัวเองไป



ห้างหรูขนาดใหญ่ ผู้คนที่เดินสวนกันไปมามากมาย เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่ดังกึกก้องไปหมด เขาไม่ได้พบเจอกับภาพเหล่านี้มานานเท่าไหร่กันนะ คงเป็นตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเดขึ้น เรื่องราวที่เป็นเหมือนกับฝันร้ายกักขังตัวเขาเอาไว้กับความอ้างว้างและเจ็บปวด...



“พี่คชา เดินดูเสื้อแถวๆนี้ไปก่อนนะ เดี๋ยวผมมา”



“อื้ม~



ใบหน้าหวานขยับขึ้นลงเป็นอันว่ารับรู้ ก่อนจะเดินพาร่างของตัวเองเข้าไปเลือกดูเสื้อผ้ามามายตรงหน้า อาจเพราะไม่ได้มาในที่แบบนี้นานทำให้เกิดความประหม่าเล็กน้อยที่ต้องถูกสายตาของคนไม่รู้จักจับจ้องตัวเองแบบนี้



ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกดูเสื้อผ้ามากมายภายในร้าย ดวงหน้าหวานก็หันไปสบเข้ากับใครบางคนที่ทำให้รู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งตัว จังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวหนัก ใบหน้าขาวซีดกับสายตาแข็งกร้าวที่ถูกส่งมาจากร้านบลั่นดีหรูตรงข้าม ไม่นานนักใบหน้านั้นก็สะบัดหนีก่อนจะหลบเดินไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว...



“ตะ..เต๋า?





เสียงหอบหายใจเบาๆกับความเหนื่อยล้าจากการที่ออกวิ่งตามหาเจ้าของร่างนั้นไปทั่วทุกพื้นที่ แผ่นหลังบางเอนพิงไปกับผนังก่อนจะพยายามสอดส่องสายตาไปทั่ว เขามั่นใจว่าเมื่อครู่นี้เขาเห็นเต๋า...พอนึกถึงใบหน้าขาวซีดนั้นก็พาบให้รู้สึกถึงความร้อนชื้นบริเว้ณขอบตาเรียว ความรู้สึกทุกอย่างมันชัดเจนเหลือเกิน ผมรักเต๋า รักมากจริงๆ...



“ฮึก...อื้ออ!!



สัมผัสแปลกปลอมจู่โจมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว มือหยาบที่ถูกปิดลงบนริมฝีปากบางแน่นเพื่อป้องกันการเกิดเสียงเล็ดรอด แรงฉุดมหาศาลทำให้เซไถลไปตามแรงนั้น ไม่นานนักก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระคนตัวเล็กกว่าถูกดึงให้มาเผชิญหน้ากับบุคคลปริศนา ความเงียบอึดอัดเกิดขึ้นทันทีเมื่อได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคือใคร



“...เต๋า...”



สายตาเรียบเฉยของร่างสูงขาวตรงหน้าสร้างความรู้สึกอึดอัดให้กับคนมองอย่างคชา ใบหน้าหวานหลุบลงต่ำก่อนจะปล่อยให้หยดน้ำตาที่อัดอั้นไว้หลั่งรินออกมา



“มีความสุขมากรึเปล่า...?



ผมนิ่งอึ้งไปชั่วขณะที่คนตรงหน้าเอ่ยถามออกมา ไม่เท่านั้นสัมผัสบางเบาจากเรียวนิ้วคนตรงหน้าปัดผ่านเช็ดเอาหยดน้ำตาของตัวเขาออกไป ยิ่งนิ้วเรียวยาวนั้นปัดผ่านหยดน้ำตาก็ยิ่งไหลอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...



“เต๋า...”



“ตอนนี้คชามีความสุขมากใช่รึเปล่า...”



เสียงทุ้มแผ่วเบาชวนให้รู้สึกหวิวภายในอก ใบหน้าหล่อคมที่มองดูเจ็บปวด แรงบีบรัดภายในหัวใจทำให้แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่สามารถเปร่งออกมาได้ เต๋ากำลังต้องการอะไรในตอนนี้...



“ต...อื้อ!



ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ริมฝีปากอุ่นร้อนของร่างสูงขาวก็จัดการบดเบียดลงกับเรียวปากสีสด ลิ้นร้อนกวาดเข้าโพลงปากนิ่มที่เปิดโอกาสไว้อย่างรวดเร็ว รสคาวของเลือดที่เกิดจากการกระแทกหนักปะปนไปกับรสจูบหอมหวานราวกับจะหลอมละลายร่างบางให้ลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ได้แขนขาวซีดนั้นรั้งตัวของตนเอาไว้ ก่อนจะผละออกจากกันเมื่อคนจู่โจมนั้นรู้สึกพึงพอใจ



ดวงหน้าหวานที่แดงเรื่อขึ้น ริมฝีปากบวมแดงเม้นเข้าหากันสนิท ความเงียบเข้าปกคลุมคนทั้งสอง เต๋าออกแรงดึงตัวของคชาเข้ามาไว้ภายในอ้อมกอดของตัวเองกอดจะออกแรงกอดรัดร่างนั้นแน่น แล้วค่อยผละออกมามองหน้าอีกฝ่าย



ไม่นานนักแขนขาวซีดก็ออกแรงดึงร่างบางของคชาให้ออกเดินตามตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัว ความเจ็บแปล๊บที่บริเวณท่อนแขนที่ถูกอีกฝ่ายบีบไว้ทำให้คชานิ่วหน้าด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกไป
ร่างเล็กของคชาถูกเหวี่ยงเข้าไปยังรถสีดันหรูโดยไม่เปิดโอกาสให้ถามอะไร เสียงปิดประตูอย่างแรงทำให้คชาสะดุ้งตัวเล็กน้อย ร่างของเต๋าที่ก้าวเดินอย่างรวดเร็วมายังที่คนขับ ใบหน้าขาวนั้นมองนิ่งไปยังเบื้องหน้าตนโดยไม่ได้หันมามองคนข้างๆแม้แต่น้อย



“เต๋า..เต๋าจะพาชาไปไหน?



รถยนต์พุ่งตัวออกจากที่เดิมของมันด้วยความเร็วจนน่าหวาดเสียว ใบหน้าหล่อคมนั่นนิ่งงันสนใจเพียงเส้นทางตรงหน้าตนเท่านั้น ไม่ได้สนใจเสียงร้องทักท้วงใดๆของคนข้างตัวเลย ใบหน้าหวานที่อาบชื้นไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง ไม่เข้าใจความคิดของเต๋าเลยแม้แต่น้อย



รถยนต์ก็เลี้ยวเข้ามายังคอนโดหรูแห่งหนึ่ง มันเป็นคอนโดที่เต๋าซื้อเอาไว้...เพื่อใช้มันอยู่กับเขา สองคน...



พอจอดรถเข้าที่เรียบร้อยร่างของเต๋าก็เดินลงมาก่อนจะเปิดประตูฝั่งที่มีร่างบางนั่งงอยู่ออกอย่างแรงแล้วฉุดแขนพาร่างนั้นให้เดินมาตามตน ใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งสองร่างก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูกว้าง มือหนาออกแรงเปิดกระชากประตูให้เปิดออกเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่ก่อนจะลากพาร่างของคชาเข้าไปด้วย



ร่างบอบบางถูกเหวี่ยงอย่างแรงให้ไถลไปกับพื้นเตียงกว้างสีขาวสะอาด ตามมาด้วยร่างของเต๋าที่เดินขึ้นมาทาบทับร่างบางนั้นไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้



“ตะ เต๋า!?



“คชามีความสุขมากใช่ไหม!!?



เสียงทุ้มที่ตะคอกลั่นเรียกให้ดวงหน้าหวานยิ่งมีน้ำตาไหลพราก ข้อมือขาวถูกล๊อคบีบไว้จนแดงช้ำและเจ็บไปหมด


“ฮึกก เต๋า...!



ใบหน้าหล่อคมก้มลงมาจนริมฝีปากหยักสัมผัสกับเนื้อผิวแก้มนิ่ม แรงคลายที่ข้อมือบางทำให้คชาหลับตาพริ้มลง ห้องทั้งห้องตกอยู้ในความเงียบ ผิวแก้มของคชาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบางอย่าง...เต๋ากำลังร้องไห้?


 
“คชา...ชายังรักเต๋าอยู่รึเปล่า...?



“เต๋า...”



ใบหน้าของเต๋าเงยขึ้นมาสบเข้ากับดวงหน้าหวานของคชา ดวงตาที่เคยดุกร้าวเต็มไปด้วยความสั่นไหว สร้างความสับสนให้กับคนตรงหน้าไม่น้อย จังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวขึ้นจนน่าอึดอัด สิ่งที่เห็นทั้งหมดนี้ผมจะเชื่อได้รึเปล่า...



สัมผัสเบาๆประทับลงบนริมฝีปากบางอย่างช้าๆ ดวงตาเรียวปิดลงเพื่อซึมซับสัมผัสตรงหน้านี้ให้ได้มากที่สุด เรียวลิ้วร้อนปัดผ่านก่อนจะล่วงล้ำกวาดหาความหอมหวานภายใน สัมผัสอ่อนโยน และไม่รุนแรง แต่กลับรุ่มร้อน...



ลำแขนเล็กค่อยๆยกขึ้นพาดกอดลำคอของร่างสูงช้าๆ มือหนาถูกส่งไปประครองใบหน้าหวานไว้เพื่อให้รับสัมผัสของตนได้ง่ายขึ้น สัมผัสเชื่องช้าราวกับกำลังค่อยๆชิมของหวานด้วยความละเมียดละไม จนทำให้เผลอหลงใหลไปชั่วขณะ



“ฮื่อออ..~



เสียงหวานที่ครางท้วงออกมาเพราะเริ่มติดขัดทำให้ร่างสูงขาวถอนจูบออกอย่างนึกเสียดายก่อนจะกดย้ำ และขบเม้นริมฝีปากบวมแดงนั้นเบาๆ



ดวงตาคมไล้มองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงเรื่อและพร่ามัวเพราะสัมผัสต่างๆ เหงื่อชื้นที่ผุดตามขมับขาว เต๋าก้มลงจูบซับความเปียกชื้นเหล่านั้นก่อนจะไล้วนไปทั่วทั้งใบหน้าเนียบเรียบ เสื้อตัวบางถูกถอดออกไปขณะที่กำลังมัวเมากับรสสัมผัสวาบหวิวโดยไม่รู้ตัว



“...คชา...”



เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นข้างใบหูร่างด้านใต้ทำให้ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเพราะห่างหายจากสัมผัสแบบนี้ไปนาน พอมาเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวก็ยิ่งทำให้ประสาทสัมผัสต่างๆอ่อนโอนไปกับทุกการกระทำได้อย่างรวดเร็ว



ลิ้นร้อนไล้เลียต้นคอขาวพร้อมทั้งขบเม้มกดจูบสร้างรอบแดงไปทั่วลำคอเรื่อยลงไปถึงแผ่นอกบาง ไม่นานนักริมฝีปากหยักก็ครอบครองเนื้อติ่งไว้ก่อนจะดูดดุนสร้างความวาบไหวให้กับร่างด้านใต้ตน



“อื้ออ เต๋า...~



เสียงครางเบาสร้างความพึงพอใจให้กับร่างด้านบนได้ไม่น้อย มือบางสอดเข้าภายใต้กลุ่มผมคนตรงหน้าก่อนจะออกแรงขย้ำเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกตนเอง ในขณะที่ร่างสูงขาวยังทำหน้าที่ขบเม้มร่างใต้ตนไปเรื่อยจนเป็นรอยแดงระเรื่องตั้งแต่ลำคอขาวไปจนถึงหน้าท้องเรียบ



ร่างเล็กรั้งตัวเองขึ้นเพื่อให้คนด้านบนมอบสัมผัสวาบหวามต่างๆได้สะดวก ลิ้นร้อนไล้วนไปตามหน้าท้องขาวก่อนจะลากผ่านกลับมาหยอกล้อเนื้อติ่งที่กำลังแข็งชันเพราะแรงอารมณ์ดังเดิม ฟันขาวขบกัดเบาๆสร้างความรู้สึกเสียงซ่านให้กับร่างเล็กด้านใต้เป็นอย่างมาก



“อื้อ



ใบหน้าหล่อเงยขึ้นสบดวงตาหวานช้ำอีกครั้งก่อนจะมอบรสจูบหนักหน่วงให้กับคนตรงหน้า มือหนาเลื่อนมาปลดเสื้อของตนออกจนเหลือเพียงอกเปลือยเปล่า แล้วจึงบดตัวลงแนบชิดกับร่างด้านใต้จนแทบไม่เหลือช่องว่าง



ความเหยียบเย็นของแอร์ชั้นดีไม่ได้ช่วยดับความร้อนรุ่มของทั้งสองร่างบนเตียงแต่อย่างใด



ใบหน้าหวานเชิดขึ้นทันทีที่มือขาวซีดเลื่อนต่ำลงไปที่บั้นท้ายของตน มือหนาปัดผ่านเพื่อปลดกางเกงที่ใส่ไว้ก่อนจะจับโยนลงไปที่พื้นล่างเตียงให้พ้นทาง



“อา..เต๋า...”



มือขาวซีดลูบผ่านต้นขาขาวพร้อมทั้งบีบคลึงสะโพกมนไปด้วยทุกครั้งที่ปัดผ่านทำให้ร่างด้านใต้นั้นบิดเร้าไปด้วยความเสียวซ่าน มือเล็กจิกลงบนแผ่นหวังกว้างเพื่อระบายอารมณ์จากทุกสัมผัส



มือขาวเลื่อนผ่านไปตามต้นขาด้านในก่อนจะย้ายไปกอบกุมส่วนแข็งขืนที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ของร่างด้านใต้ตน



“ฮึก อ่า เต๋า…~



มือหนาขยับไปตามความอึดอัดของร่างด้านใต้ มือเล็กเลื่อนขึ้นไปขย้ำเส้นผมหนานุ่มของร่างด้านบนตัวเองจนหยุงเหยิงไปหมด เสียงครางหวานหูที่เปร่งออกมาทุกครั้งที่มือหนาขยับ ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงเรื่อเพราะแดงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าอย่างต่อเนื่อง ฝันขาวขบกัดริมฝีปากของตนจนของเหลวสีแดงไหลซิบออกมา ทำให้ใบหน้าหล่อคมเลื่อนขึ้นไปตวัดปลายลิ้นไล้เลียของเหลวแดงนั้นก่อนจะบดจูบร้อนลงบนริมฝีปากร่างด้านใต้อีกรอบ



ร่างเล็กที่ถูกปลุกเร้าจนถึงขีดสุด เสียงครางหวานเปร่งออกมาแม้ว่าริมฝีปากนั้นจะถูกปิดทับอยู่ ร่างเล็กกระตุกไหวปลดปล่อยความอึดอัดของตนจนมือขาวซีดนั้นเปียกชื้น



“ฮึก! อื้ออ..!



ไม่ปล่อยให้ร่างเล็กได้หอบหายใจพักเหนื่อย นิ้วมือขาวที่เปียกชุ่มนั้นไล้วนไปตามช่องทางหลังของร่างที่กำลังหอบหายใจตัวโยนสร้างความวาบไหวจนเผลอครางเสียงหวานออกอย่างห้ามไม่ได้



“คชา...เต๋า ไม่ไหวแล้ว...”



เพราะเสียงแหบพร่าที่เปร่งออกมาข้างๆใบหูร่างด้านใต้ เรียวขาเล็กตั้งชันขึ้นทันทีโดยอัตโนมัติ มือเล็กย้ายไปวางบนเนินไหล่ขาวของร่างด้านบนตนก่อนจะออกแรงบีบเบาๆ



“ทนหน่อยนะ...”



เรียวนิ้วชื้นที่ไล้วนอยู่นานแทรกเข้าหาความคับแน่นที่ช่องทางหลังช้าๆ ใบหน้าหวานบิดเบือนด้วยความเจ็บปวดแต่ก็พยายามจะกลั้นเสียงร้องของตนไว้ด้วยการเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนแน่น เรียวนิ้วยาวเพิ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความเจ็บปวดที่กำลังเล่นงานร่างบอบบาง เสียงร้องหวานหูหลงออกมาทันทีเมื่อเรียวนิ้วที่ค้างอยู่ภายในตัวนั้นขยับเปิดทาง



“อึกก อื้ออ!



เรียวนิ้วยาวถูกถอดถอนออก ก่อนจะแทนทีด้วยความแข็งขืนของร่างสูงขาว ใบหน้าหวานชื้นเหงื่อส่ายไปมาด้วยความเจ็บ หยดน้ำตาไหลออกมาถูกมือขาวซีดปาดซับออกไปจนหมด ก่อนจะตามลงมาด้วยการพรมจูบบางเบาทั่วใบหน้าหวาน



“ฮึก!



ริมฝีปากบางยิ่งเม้มเข้าหากันแน่นขึ้นเมื่อร่างสูงขาวด้านบนเริ่มขยับไหวตัว ความเจ็ยแปล๊บที่แล่นเข้ามาทำให้มือบางเลื่อนออกไปดึงทึ้งผืนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่



แรงกระแทกจากร่างด้านบนเริ่มถี่รัวขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างด้านใต้นั้นเริ่มผ่อนคลาย เสียงครางหวานปะปนไปกับเสียงเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ



เรียวแขนเล็กยกขึ้นกอดลำคอแกร่งแน่นเพื่อเป็นการผ่อนคลายความเจ็บปวดที่ผสมปนเปไปกับความรู้สึกวาบไหว ร่างสูงขาวขยับเร่งจังหว่ะขึ้นเรื่อย ร่างเล็กพยายามจับจังหวะเพื่อให้เข้ากับการกระแทกของร่างนั้นเพื่อหวังจะได้ผ่อนคลายความเจ็บปวดลง



“อา..คชา...”



“ฮึกก เต๋า อื้ออ...~



ร่างสูงของเต๋ายังคงกระแทกหนักลงเพื่อจะปลดปล่อยอารมณ์อึดอัดของตนไม่นานนัก ใบหน้าหล่อก็ผ่อนลงก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยความอึดอัดของตน เสียงครางต่ำบ่งบอกว่าเขาพอใจกับสัมผัสเหล่านี้มากเพียงใด



ใบหน้าหวานซบลงกับลำคอขาวด้วยความเหนื่อยล้า ท่อนแขนเล็กปล่อยออกจากลำคอแกร่งพร้อมกับทิ้งหัวลงกับหมอนสีขาวใบโต



เสียงหอบหายใจเพราะความเหนื่อยล้า ร่างของเต๋าทรุดลงทาบทับร่างเล็ดด้านใต้ มือหนายกขึ้นซับเหงื่อชื้นที่บริเวณขมับขาว รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถมองเห็นได้



“คชา...คชายังรักเต๋าใช่ไหม?



เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบนิ่ง มือเล็กเลื่อนไปก่อนจะกอบกุมมือขาวซีดไว้แนบแน่น



“เต๋า...ชารักเต๋ามากนะ...”



เสียงสะอื้นเบาๆจากร่างที่ถูกทาบทับไว้ เต๋าเลื่อนตัวออกไปนอนที่พื้นเตียงด้านข้าง พร้อมทั้งมองไปยังใบหน้าหวาน...



สายตาคมเหลือบขึ้นไปมองนาฬิกาบนหัวเตียง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว มือหนาเลื่อนไปลูบศรีษะเล็กอย่างเบามือ...



“นอนพักเถอะนะเด็กดี...”



ราวกับโดนร่ายเวทย์มนต์ ดวงตาเรียวหลับพริ้มแทบจะทันที ลมหายใจที่ผ่อนอย่างสม่ำเสมอคงเพราะเนื่อยจากกิจกรรมเมื่อครู่เลยเป็นผลให้ร่างนี้หลับลงได้โดยง่าย...



“รักเต๋ามากซินะ คชา...”





“ถ้าอย่างนั้นก็รักเต๋าให้มาก และรักให้ตลอดไปแล้วกันนะ...คชา…”




------------------------------------------------
อ่ะ ฮะ เอ้ย ยย ย อย่าลืม กลับไปเม้นให้ด้วยนะเจ้าคะ

ยืมวิธีซ่อนเอ็นซีมาจากท่านป้าเลี่ยง หวังว่าคงไม่ว่ากันเนอะขอยืมวิธีนะคะ ~

อ๊ะๆ อย่าลืมกลับไปเม้นนะจ๊ะ <3


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น