“เฟรม...พี่ขอโทษ”
“หืม ? ขอโทษอะไรพี่คชา
ฮ่ะๆ”
“...เจ็บรึเปล่า?”
สัมผัสแผ่วเบาบริเวณมุมปากทำให้เฟรมสะดุ้งตัวเล็กน้อยจากความเจ็บที่รอบช้ำแดงทำให้คชาต้องรีบดึงมือตัวเองกลับก่อนจะมองไปยังร่างที่กำลังซี๊ดปากด้วยความเจ็บด้วยสายตาที่เป็นกังวล
“เจ็บแค่นี้เล็กน้อยมากพี่~”
เพราะใบหน้าหวานที่ดูว่าไม่มีท่าทีจะคลายกังวลทำให้คนมองต้องแสร้งฉีดยิ้มกว้างอวดเก่งแต่เพียงไม่ทันไรก็ต้องหุบยิ้มเก็บดังเดิมอย่างรวดเร็วเพราะความเจ็บแปล๊บบริเวณรอยแดงช้ำ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอบเจ็บอยู่ไม่น้อย ก็ไอคนต่อยหน่ะเบามือซะที่ไหนหล่ะ...
“ยังจะมาปฏิเสธอีกเนอะ”
รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานที่กำลังส่ายไปมาคล้ายว่านึกขำกับท่าทางทำเป็นเก่งเหมือนเด็กๆของคนตรงหน้านี้
ก่อนที่มือบางจะยื่นไปสัมผัสที่บริเวณรอยว้ำนั้นอีกครั้งอย่างเบามือที่สุด
สีหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงนั่น เฟรมมองสิ่งตรงหน้านี้ด้วยสายตาที่วูบไหว
เขาหลงใหลคนตรงหน้านี้มาตลอด รอยยิ้มและสีหน้าท่าทางที่เป็นห่วงคนอื่นตลอดเวลา
ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลอยากจะปกป้องดูแลคนตรงหน้านี้เหลือเกิน
แต่เขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับคนคนนึง
คนที่คิดมาตลอดว่าจะดูแลร่างตรงนี้ได้ดีกว่าตัวเอง แต่มาวันนี้ได้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่
มันไม่ใช่แบบที่เขาคิดในอดีตอีกแล้ว...
เขาต้องการจะเป็นคนปกป้องร่างตรงหน้านี้เอง...
“...ฟ..เฟรม!...”
“ห๊ะ!
มีอะไรหรอพี่?”
สีหน้าที่เคยปรากฏรอยยิ้ม
หม่นลงอย่างน่าสงสัย ดวงหน้าหวานที่หลุบลงต่ำ ริ้มฝีปากบางเม้มติดกันจนแน่น ห้องทั้งห้องกำลังจะตกอยู่ในความเงียบ
ใบหน้าของคชาเงยขึ้นมาสบกับเฟรมอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“พี่จะกลับไป...”
“ไม่ได้!”
เสียงทุ้มแหบของเฟรมดังแทรกขึ้นทันทีโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายพูดจบ
“พี่กลับไปบ้านพี่เต๋าไม่ได้นะพี่คชา!”
“ทำไมหล่ะเฟรม!?”
“ผม...!”
ใบหน้าของคชาขมวดแน่นด้วยความสงสัย
ส่วนเฟรมก็สะบัดหน้าหันหนีไปอีกทางก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
เขาไม่อยากหลุดอะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจจึงเลือกที่จะหยุดนิ่งไว้แค่นั้น
ความเงียบเชียบชวนอึดอัดทำให้หัวใจเหมือนถูกบีบรัด
เฟรมเงยหน้าไปมองคนตรงหน้าตนอีกครั้ง
“มันไม่ปลอดภัยนะพี่...”
“แต่พี่ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะพี่แล้วนะเฟรม...”
ไม่อยากจะให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะเขาแบบนี้
เต๋าเป็นคนอารมณ์ร้อน คิดอะไรซับซ้อนไม่รู้ว่าทุกการกระทำนั้นต้องการอะไรกันแน่
เขามองเห็นสายตาของเต๋าก่อนที่จะเดินออกไปจากตัวบ้าน มันเป็นสายตาของคนที่กำลังคิดแค้น
สายตาของคนที่มั่นใจว่าตัวเองต้องไม่เป็นพ่ายที่พ่ายแพ้...
“พี่ฟังผมนะ
ไม่มีใครเดือดร้อนเพราะพี่หรอก ถึงเราจะเดือดร้อนจริง แต่พวกเราก็เต็มใจนะพี่
โดย
เฉพาะ...”
โดยเฉพาะผม... อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ได้
น่าสมเพชจริงๆ...
ใบหน้าหวานของคชาพยักขึ้นลงเบาๆ
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเฟรมคิดอะไรอยู่ ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้
เขาทำอะไรผิดไปทำไมพระเจ้าถึงได้ลงโทษเขา
ความรักดีๆที่เคยได้รับกลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายใจตัวเอง สูญเสียคนรักที่แสนดี
สูญเสียบุคคลสำคัญ แล้วยังจะมอบคนคนนึงมาทำดีกับเขาสารพัดอย่างทั้งที่เขารู้ดีว่าจะไม่มีวันหันไปรู้สึกเกินเลยกับคนคนนี้แน่ๆ...
“ผมขอถามพี่ครั้งสุดท้ายนะพี่คชา...”
“...”
“พี่รักพี่เต๋ามากรึเปล่า?”
เฟรมยิ้มกว้างทันทีที่พูดจบต่างกัยฝ่ายคนถูกถามที่นิ่งชะงักไป
รอยยิ้มนั้นดูผ่านๆก็รู้ว่ากำลังฝืนแค่ไหน
“พี่รักเต๋ามาก...”
“นึกแล้วเชียว ว่าพี่ต้องตอบแบบนี้”
รอยยิ้มจางๆที่ประดับอยู่บนใบหน้าคนฟังอดไม่ได้ที่จะทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ
รักใครซักคนโดยที่รู้ว่าไม่มีวันจะสมหวังมันเจ็บแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบาย
มันเจ็บเจียนตาย เจ็บจุกจนแทบขยับไม่ได้...
“พี่คชา
พรุ่งนี้เราออกไปเที่ยวข้างนอกกันดีกว่า ไปสูดอากาศโล่งๆบ้าง ดีไหมพี่คชา?”
“...อื้ม เอางั้นก็ได้นะ...”
กลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งไปทั่วทุกมุมห้องกว้างกับเศษแก้วที่แตกกระจายเต็มพื้น
ร่างสูงขาวที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
ขอบตาที่เริ่มออกไปทางช้ำแดงบ่งบอกได้ดีว่าผู้เป็นเจ้าของนั้นนั่งดื่มของเหลวสีอำพันในขวดแก้วใสเข้าไปมากเพียงใดและไม่ได้พักผ่อนเลยทั้งคืนจนถึงเช้าวันใหม่
“ไอเต๋า! อื้อหือ~ นี่แกกะกินให้ตายเลยรึไงวะ!?”
เสียงของผู้มาใหม่ไม่ได้เรียกสติของเจ้าของห้องให้หันมาสนใจแต่อย่างใด
มือขาวซีดยังคงยกขวดดีไซน์หรูขึ้นดื่มไปเรื่อยจนกระทั่งหมด ก่อนที่ขวดไร้ประโยชน์นั่นจะถูกเขวี้ยงไปยังทิศทางหน้าประตูที่มีร่างของอีกคนยืมอยู่
เสียงแก้วกระทบกับพื้นผนังจนแตกกระจายเฉียดฉิวร่างของผู้มาใหม่ไปเพียงเล็กน้อย
ทำให้คนโดนประทุษร้ายต้องตระหวัดสายตาอึ้งๆไปยังคนกระทำ
“ไอเต๋า!
ถ้ามันถูกหัวพี่จะทำไงวะห๊ะ!!”
“เลิกพูดมากแล้วออกไปจากห้องผมได้แล้วพี่ต้น!!”
เสียงตะคอกลั่นของเต๋าแทบจะทำให้ต้นอยากจะกวาดเศษซากแก้วที่แตกกระจายเต็มพื้นห้องไปกรอกใส่ปากให้อีกคนหายบ้าถ้าไม่ติดว่าคนคนนั้นเป็นน้องชายของตัวเอง
ขาสองข้างค่อยๆพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องกว้างโดยไม่ลืมระวังเศษแก้วที่กระจายเต็มพื้นก่อนจะไปยืมขวางอยู่ตรงหน้าคนที่กำลังนั่งปิดตาจนแน่น
ต้นมองสภาพของเต๋าด้วยใบหน้าที่แสนจะเอือมระอา
น้องชายเขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหมาจรจัดข้างถนนแม้แต่น้อย
ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง
ใบหน้าหล่อคมที่เกร็งนิ่วจนคิ้วแทบจะวิ่งมาชนกัน รอยแดงช้ำที่ขอบตา คราบของเหลวที่อำพันที่หกเปลอะเปื้อนเต็มเสื้อ
ดูยังไงก็ไม่เป็นคนซักนิดเดียว...
“ทำไมวะเต๋า โดนเขาตบกลับมาแค่นี้
ช๊อคไงไอน้องชาย??”
สายตาดุกร้าวตะหวัดกลับมองหน้าคนพูดแทบจะทันที
ร่างสูงขาวนั้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องซวนเซไปเพราะฤทธิ์เหล้า
ต้นมองดูสภาพนี้ด้วยความเหนื่อยใจ
พยายามจะเข้าไปช่วยแต่มือขาวซีดของเต๋าก็ปัดกลับความหวังดีนั้นอย่างไร้เยื่อใย
ก่อนจะออกแรงค้ำโต๊ะไว้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มีของตัวเอง
“แค่ตบหน้ามันน้อยไปหว่ะ พี่ต้น!”
“แล้วอะไรถึงจะมากพอให้แกกลายสภาพเป็นหมาเน่าอย่างงี้วะเต๋า!
อ๋อ~ หรือเป็นเพราะไปตามเขากลับแต่เขาไม่กลับมาด้วยแถมยังไล่แกกลับมาคนเดียวอีก
ใช่ไหมเต๋า!?”
ความเงียบน่าอึดอัดเกิดขึ้นแทบจะทันทีที่จบประโยคยียวนอารมณ์
ดวงตาแข็งกร้าวของเต๋าปิดลงแน่น ร่างสูงขาวนั้นเซไปด้านหลังเล็กน้อย
ก่อนจะพยายามยืนหยัดกายด้วยตัวเองอีกครั้ง คำพูดของต้นนั้นจี้ถูกจุด
เต๋าเจ็บใจกับเรื่องนี้มาก...
“เต๋า...แกเลิกทำตัวแบบนี้เหอะ
แกยังรักคชาอยู่พี่รู้...ทุกอย่างมันจะกลับไปดีเหมือนเดิมนะเต๋า คชารักแกมากนะเว้ย
ตื่นจากความแค้นซักทีเถอะ คชาเขาไม่ได้ผิด คนผิดก็ตายไปแล้ว
แกจะเก็บเรื่องในอดีตมาแบกไว้ทำไมให้เจ็บปวดเปล่าๆวะ...”
คำพูดที่ถูกเอ่ยออกมาให้อีกคนได้คิด
ใบหน้าของเต๋าอ่อนลงแทบจะทันทีที่จบประโยค
ใบหน้าหล่อเงยขึ้นสบกับคนเป็นพี่ก่อนจะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ
“พี่ต้นทุกอย่างมันกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้
มันมีแต่ต้องเริ่มใหม่ พี่รู้รึเปล่า...”
ทันทีที่พูดจบ รอยยิ้มร้ายก็ถูกฉาบบนใบหน้าขาว
ความแค้น ความโกรธ ความอึดอัด ความกดดัน และ
ฤทธิ์ของสิ่งมึนเมากำลังรุมกันครอบงำสติและความคิดทุกอย่างของเต๋า
รอยยิ้มนั้นไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไหร่นัก
ต้นมองการกระทำของน้องชายตัวเองด้วยความกังวล เขาจำมันได้ดีรอยยิ้มแบบนี้
ใบหน้าเต๋าในตอนนี้มันเหมือนกับตอนที่เกิดเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ปีมานี้
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนน้องชายดีๆของเขาให้กลายเป็นเหมือนหมาบ้าที่เต็มไปด้วยความเครียดแค้น...
‘ปัง!!’
‘แม่!!!’
‘เต๋าอย่าเข้าไป
ไฟมันลามไปทั่วแล้ว!’
‘แต่ แม่…!!’
ภาพของเพลิงแดงฉานที่ท่วมลามไปทั่วทุกพื้นที่บ้านหลังใหญ่
ตรงหน้าเป็นภาพของหญิงสูงวัยหน้าตาอ่อนแรงที่นอนเลือดท่วมกายอยู่กลางโถงต้องตัวบ้าน
เพราะร่างนั้นพุ่งตรงไปรับลูกกระสุนสีเงินที่ควรจะโดนชายผิดขาวซีดผู้เป็นลูกชายแทน
ใบหน้านั้นประดับยิ้มจางๆมองมาทางร่างของคนภายนอกตัวบ้านเพราะเธอนั่นมั่นใจแล้วว่าลูกชายของเธอปลอดภัยดี
ไม่เพียงเท่านั้นร่างของชายสูงวัยคนหนึ่งที่ยืนอยู่เยื้องไปจากตัวบ้านไม่มากนัก
ใบหน้านั้นแสยะยิ้มร้ายราวกับว่ากำลังเย้ยหยันพวกเขา
ที่ข้างผู้ชายคนนั้นมีชายหนุ่มร่างบอบบางอีกคนใบหน้าหวานนั้นเปลอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย
เสียงร้องตะโกนที่เริ่มจะแตกแหบ ร่างนั้นถูกฉุดลากไปจนเสียงตะโกนนั่นเริ่มเบาลง
‘เต๋า! …พ่อปล่อยชาเถอะ..!!
เต๋า!! เต๋า...’
มันเหมือนความฝันอันเลวร้าย
ชายสูงวัยผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนทรยศที่แสนโหดร้ายถูกจับตาย ส่วนชายหนุ่มผู้เป็นลูกที่เขาพาไปด้วยนั้นถูกจับกลับมาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
หยดน้ำตายังไหลออกมาราวกับไม่มีทีท่าว่าจะหมด
ใบหน้าหวานช้อนมองบุคคลที่ตนพร่ำเรียกชื่อจนเสียงแหบแห้งแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นเพียงใบหน้านิ่งเฉย
สายตาคมว่างเปล่าจับจ้องยังร่างเล็กที่กำลังสั่นไหว
ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มร้ายๆให้เห็นเพียงแค่ชั่ววินาที
ใช่แล้ว
ใบหน้าของเต๋าในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับตอนนั้นเลยแม้แต่น้อย....
“เต๋า...”
“ผมกำลังจะเริ่มใหม่ไงพี่ต้น ไม่ดีรึไง? อ้อ เดี๋ยวผมของออกไปข้างนอกหน่อยนะ...”
พูดจบมือขาวซีดก็คว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้กับปลายเตียงก่อนจะพยายามพาร่างของตัวเองไปยังห้องน้ำโดยไม่ให้ซวนเซล้มไปซะก่อน
“เห้ย! แกจะไปไหนวะเต๋า
สภาพแบบนี้?”
“มันหมดแล้ว... จะไปซื้อเพิ่ม”
ปลายนิ้วเรียวชี้ไปยังซากขวดเหล้าเปล่าที่ว่างระเกะระกะบ้างก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยง
ต้นมองตามภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรง
นี่มันกะกินให้สำลักตายเลยใช่ไหมวะเนี่ย?
“ป้าแม่บ้านครับ ไงก็ฝากเก็บด้วยนะครับ
ระวังมันบาดด้วยหล่ะ...”
“ค...คะ คุณต้น”
“อ้อ ค่อยทำตอนไอเต๋ามันออกไปแล้วนะป้า
เดี๋ยวมันเหวี่ยงเอา ช่วงนี้มันร้อนเชื้อบ้ากำลังกำเริบ”
ต้นส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินออกไป โดยไม่ลืมจะมองผ่านไปยังประตูห้องน้ำที่มีร่างขาวอยู่ในนั้น...
อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีซักที...
“พี่คชาเสร็จยังเนี่ย~”
“เสร็จแล้วๆ รีบจริงเหอะ!”
เสียงหัวเราะใสๆจางร่างบางที่วิ่งดุ๊กดิ๊กลงมากตากบันได
เรียกให้คนที่มองเห็นอมยิ้มไปตามๆกันกับภาพน่ารักๆนี้
“อ้าวนั่น จะไปไหนกันหน่ะ?”
ร่างสูงของเจมส์เดินเข้ามาก่อนจะยกแขนหนักๆของตัวเองวางพาดไปที่คอเพื่อนรักอย่างเฟรม
เรียกให้ใบหน้าของคนโดนกระทำบิดเบี้ยวเพราะเริ่มจะอึดอัดหายใจไม่ออก
“ไปเที่ยวมั่งดิวะ อยู่แต่ในห้อง
อึดอัดตายห่า”
คชาหัวเราะเบากับคำพูดโต้เถียงของเฟรมกับเจมส์
ส่วนเจมส์ก็เบ้หน้าไปมาด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะย้ายแขนหนักๆของตัวเองออกจากคอเพื่อนรักแล้วหันไปฉีกยิ้มกว้างให้กับร่างบางที่ยืนอมยิ้มขำ
“ครับๆ ~”
เจมส์เขยิบเข้ามาใกล้ร่างของเฟรมก่อนจะก้มลงให้ริมฝีปากของตนอยู่ในระดับใบหูคนตรงหน้า
“อย่าลืมที่สัญญากันไว้หล่ะ บักปอม~”
เสียงกระซิบแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนเรียกความสงสัยให้กับคชาได้ไม่น้อย
ยิ่งเห็นใบหน้าที่นิ่งชะงักลงของเฟรม ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะอยากรู้
“มีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่าคร้าบบ~ เอ้า ไปกันได้แล้ส อย่ากลับมาเย็นนักหล่ะครับท่านทั้งสอง”
เสียงพูดทีเล่นทีจริงของเจมส์ทำให้คชาหลุดยิ้มขำอีกครั้งก่อนจะออกเดินตามเฟรมไปโดยไม่ลืมที่จะหันมาโบกมือบ๊ายบายเจ้าบ้านอย่างเจมส์
“เฟรม เราจะไปไหนกันหรอ?”
“อืมมม...
ผมว่าจะพาพี่ไปซื้อพวกของใช้ส่วนตัวหน่ะ”
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาหลังจากสิ้นเสียงพูด
เรียกรอยยิ้มบางๆจากคนมองได้เป็นอย่างดี
ร่างเล็กของคชาเอนพิงไปกับเบาะที่เอนรับไว้ ก่อนจะหลับตาพริ้มลง...
ความสุขเล็กๆแบบนี้จะอยู่กับเขาไปได้นานเท่าไหร่กันนะ...
“ถึงแล้วคร้าบบบ เจ้านาย~”
“ฮะ ฮื่อออ ถึงแล้วหรอ?”
ดวงตาเรียวเล็กกระพริบสองสามทีเพื่อปรับการมองเห็นตรงหน้าก่อนจะค่อยเปิดประตูรถลงมายืนบิดไปมาเพื่อสบายความเจ็บปวดจากการนอนหลับบนรถ
แล้วจึงเดินตามร่างที่ออกเดินนำตัวเองไป
ห้างหรูขนาดใหญ่
ผู้คนที่เดินสวนกันไปมามากมาย เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยที่ดังกึกก้องไปหมด
เขาไม่ได้พบเจอกับภาพเหล่านี้มานานเท่าไหร่กันนะ คงเป็นตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเดขึ้น
เรื่องราวที่เป็นเหมือนกับฝันร้ายกักขังตัวเขาเอาไว้กับความอ้างว้างและเจ็บปวด...
“พี่คชา เดินดูเสื้อแถวๆนี้ไปก่อนนะ
เดี๋ยวผมมา”
“อื้ม~”
ใบหน้าหวานขยับขึ้นลงเป็นอันว่ารับรู้ ก่อนจะเดินพาร่างของตัวเองเข้าไปเลือกดูเสื้อผ้ามามายตรงหน้า
อาจเพราะไม่ได้มาในที่แบบนี้นานทำให้เกิดความประหม่าเล็กน้อยที่ต้องถูกสายตาของคนไม่รู้จักจับจ้องตัวเองแบบนี้
ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกดูเสื้อผ้ามากมายภายในร้าย
ดวงหน้าหวานก็หันไปสบเข้ากับใครบางคนที่ทำให้รู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งตัว
จังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวหนัก
ใบหน้าขาวซีดกับสายตาแข็งกร้าวที่ถูกส่งมาจากร้านบลั่นดีหรูตรงข้าม
ไม่นานนักใบหน้านั้นก็สะบัดหนีก่อนจะหลบเดินไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว...
“ตะ..เต๋า?”
เสียงหอบหายใจเบาๆกับความเหนื่อยล้าจากการที่ออกวิ่งตามหาเจ้าของร่างนั้นไปทั่วทุกพื้นที่
แผ่นหลังบางเอนพิงไปกับผนังก่อนจะพยายามสอดส่องสายตาไปทั่ว
เขามั่นใจว่าเมื่อครู่นี้เขาเห็นเต๋า...พอนึกถึงใบหน้าขาวซีดนั้นก็พาบให้รู้สึกถึงความร้อนชื้นบริเว้ณขอบตาเรียว
ความรู้สึกทุกอย่างมันชัดเจนเหลือเกิน ผมรักเต๋า รักมากจริงๆ...
“ฮึก...อื้ออ!!”
สัมผัสแปลกปลอมจู่โจมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว
มือหยาบที่ถูกปิดลงบนริมฝีปากบางแน่นเพื่อป้องกันการเกิดเสียงเล็ดรอด
แรงฉุดมหาศาลทำให้เซไถลไปตามแรงนั้น
ไม่นานนักก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระคนตัวเล็กกว่าถูกดึงให้มาเผชิญหน้ากับบุคคลปริศนา
ความเงียบอึดอัดเกิดขึ้นทันทีเมื่อได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นคือใคร
“...เต๋า...”
สายตาเรียบเฉยของร่างสูงขาวตรงหน้าสร้างความรู้สึกอึดอัดให้กับคนมองอย่างคชา
ใบหน้าหวานหลุบลงต่ำก่อนจะปล่อยให้หยดน้ำตาที่อัดอั้นไว้หลั่งรินออกมา
“มีความสุขมากรึเปล่า...?”
ผมนิ่งอึ้งไปชั่วขณะที่คนตรงหน้าเอ่ยถามออกมา
ไม่เท่านั้นสัมผัสบางเบาจากเรียวนิ้วคนตรงหน้าปัดผ่านเช็ดเอาหยดน้ำตาของตัวเขาออกไป
ยิ่งนิ้วเรียวยาวนั้นปัดผ่านหยดน้ำตาก็ยิ่งไหลอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...
“เต๋า...”
“ตอนนี้คชามีความสุขมากใช่รึเปล่า...”
เสียงทุ้มแผ่วเบาชวนให้รู้สึกหวิวภายในอก
ใบหน้าหล่อคมที่มองดูเจ็บปวด
แรงบีบรัดภายในหัวใจทำให้แม้แต่เสียงสะอื้นก็ไม่สามารถเปร่งออกมาได้
เต๋ากำลังต้องการอะไรในตอนนี้...
“ต...อื้อ!”
ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ
ริมฝีปากอุ่นร้อนของร่างสูงขาวก็จัดการบดเบียดลงกับเรียวปากสีสด ลิ้นร้อนกวาดเข้าโพลงปากนิ่มที่เปิดโอกาสไว้อย่างรวดเร็ว
รสคาวของเลือดที่เกิดจากการกระแทกหนักปะปนไปกับรสจูบหอมหวานราวกับจะหลอมละลายร่างบางให้ลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ได้แขนขาวซีดนั้นรั้งตัวของตนเอาไว้
ก่อนจะผละออกจากกันเมื่อคนจู่โจมนั้นรู้สึกพึงพอใจ
ดวงหน้าหวานที่แดงเรื่อขึ้น ริมฝีปากบวมแดงเม้นเข้าหากันสนิท
ความเงียบเข้าปกคลุมคนทั้งสอง
เต๋าออกแรงดึงตัวของคชาเข้ามาไว้ภายในอ้อมกอดของตัวเองกอดจะออกแรงกอดรัดร่างนั้นแน่น
แล้วค่อยผละออกมามองหน้าอีกฝ่าย
ไม่นานนักแขนขาวซีดก็ออกแรงดึงร่างบางของคชาให้ออกเดินตามตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัว
ความเจ็บแปล๊บที่บริเวณท่อนแขนที่ถูกอีกฝ่ายบีบไว้ทำให้คชานิ่วหน้าด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกไป
ร่างเล็กของคชาถูกเหวี่ยงเข้าไปยังรถสีดันหรูโดยไม่เปิดโอกาสให้ถามอะไร
เสียงปิดประตูอย่างแรงทำให้คชาสะดุ้งตัวเล็กน้อย
ร่างของเต๋าที่ก้าวเดินอย่างรวดเร็วมายังที่คนขับ
ใบหน้าขาวนั้นมองนิ่งไปยังเบื้องหน้าตนโดยไม่ได้หันมามองคนข้างๆแม้แต่น้อย
“เต๋า..เต๋าจะพาชาไปไหน?”
รถยนต์พุ่งตัวออกจากที่เดิมของมันด้วยความเร็วจนน่าหวาดเสียว
ใบหน้าหล่อคมนั่นนิ่งงันสนใจเพียงเส้นทางตรงหน้าตนเท่านั้น
ไม่ได้สนใจเสียงร้องทักท้วงใดๆของคนข้างตัวเลย
ใบหน้าหวานที่อาบชื้นไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง ไม่เข้าใจความคิดของเต๋าเลยแม้แต่น้อย
รถยนต์ก็เลี้ยวเข้ามายังคอนโดหรูแห่งหนึ่ง
มันเป็นคอนโดที่เต๋าซื้อเอาไว้...เพื่อใช้มันอยู่กับเขา สองคน...
พอจอดรถเข้าที่เรียบร้อยร่างของเต๋าก็เดินลงมาก่อนจะเปิดประตูฝั่งที่มีร่างบางนั่งงอยู่ออกอย่างแรงแล้วฉุดแขนพาร่างนั้นให้เดินมาตามตน
ใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งสองร่างก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูกว้าง
มือหนาออกแรงเปิดกระชากประตูให้เปิดออกเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่ก่อนจะลากพาร่างของคชาเข้าไปด้วย
ร่างบอบบางถูกเหวี่ยงอย่างแรงให้ไถลไปกับพื้นเตียงกว้างสีขาวสะอาด
ตามมาด้วยร่างของเต๋าที่เดินขึ้นมาทาบทับร่างบางนั้นไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้
“ตะ เต๋า!?”
“คชามีความสุขมากใช่ไหม!!?”
เสียงทุ้มที่ตะคอกลั่นเรียกให้ดวงหน้าหวานยิ่งมีน้ำตาไหลพราก
ข้อมือขาวถูกล๊อคบีบไว้จนแดงช้ำและเจ็บไปหมด
“ฮึกก เต๋า...!”
ใบหน้าหล่อคมก้มลงมาจนริมฝีปากหยักสัมผัสกับเนื้อผิวแก้มนิ่ม
แรงคลายที่ข้อมือบางทำให้คชาหลับตาพริ้มลง ห้องทั้งห้องตกอยู้ในความเงียบ
ผิวแก้มของคชาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบางอย่าง...เต๋ากำลังร้องไห้?
“คชา...ชายังรักเต๋าอยู่รึเปล่า...?”
“เต๋า...”
ใบหน้าของเต๋าเงยขึ้นมาสบเข้ากับดวงหน้าหวานของคชา
ดวงตาที่เคยดุกร้าวเต็มไปด้วยความสั่นไหว สร้างความสับสนให้กับคนตรงหน้าไม่น้อย
จังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่รัวขึ้นจนน่าอึดอัด
สิ่งที่เห็นทั้งหมดนี้ผมจะเชื่อได้รึเปล่า...
สัมผัสเบาๆประทับลงบนริมฝีปากบางอย่างช้าๆ
ดวงตาเรียวปิดลงเพื่อซึมซับสัมผัสตรงหน้านี้ให้ได้มากที่สุด
เรียวลิ้วร้อนปัดผ่านก่อนจะล่วงล้ำกวาดหาความหอมหวานภายใน สัมผัสอ่อนโยน
และไม่รุนแรง แต่กลับรุ่มร้อน...
ลำแขนเล็กค่อยๆยกขึ้นพาดกอดลำคอของร่างสูงช้าๆ
มือหนาถูกส่งไปประครองใบหน้าหวานไว้เพื่อให้รับสัมผัสของตนได้ง่ายขึ้น สัมผัสเชื่องช้าราวกับกำลังค่อยๆชิมของหวานด้วยความละเมียดละไม
จนทำให้เผลอหลงใหลไปชั่วขณะ
“ฮื่อออ..~”
เสียงหวานที่ครางท้วงออกมาเพราะเริ่มติดขัดทำให้ร่างสูงขาวถอนจูบออกอย่างนึกเสียดายก่อนจะกดย้ำ
และขบเม้นริมฝีปากบวมแดงนั้นเบาๆ
ดวงตาคมไล้มองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงเรื่อและพร่ามัวเพราะสัมผัสต่างๆ
เหงื่อชื้นที่ผุดตามขมับขาว
เต๋าก้มลงจูบซับความเปียกชื้นเหล่านั้นก่อนจะไล้วนไปทั่วทั้งใบหน้าเนียบเรียบ เสื้อตัวบางถูกถอดออกไปขณะที่กำลังมัวเมากับรสสัมผัสวาบหวิวโดยไม่รู้ตัว
“...คชา...”
เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นข้างใบหูร่างด้านใต้ทำให้ใบหน้าหวานเชิดขึ้นเพราะห่างหายจากสัมผัสแบบนี้ไปนาน
พอมาเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวก็ยิ่งทำให้ประสาทสัมผัสต่างๆอ่อนโอนไปกับทุกการกระทำได้อย่างรวดเร็ว
ลิ้นร้อนไล้เลียต้นคอขาวพร้อมทั้งขบเม้มกดจูบสร้างรอบแดงไปทั่วลำคอเรื่อยลงไปถึงแผ่นอกบาง
ไม่นานนักริมฝีปากหยักก็ครอบครองเนื้อติ่งไว้ก่อนจะดูดดุนสร้างความวาบไหวให้กับร่างด้านใต้ตน
“อื้ออ เต๋า...~”
เสียงครางเบาสร้างความพึงพอใจให้กับร่างด้านบนได้ไม่น้อย
มือบางสอดเข้าภายใต้กลุ่มผมคนตรงหน้าก่อนจะออกแรงขย้ำเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกตนเอง
ในขณะที่ร่างสูงขาวยังทำหน้าที่ขบเม้มร่างใต้ตนไปเรื่อยจนเป็นรอยแดงระเรื่องตั้งแต่ลำคอขาวไปจนถึงหน้าท้องเรียบ
ร่างเล็กรั้งตัวเองขึ้นเพื่อให้คนด้านบนมอบสัมผัสวาบหวามต่างๆได้สะดวก
ลิ้นร้อนไล้วนไปตามหน้าท้องขาวก่อนจะลากผ่านกลับมาหยอกล้อเนื้อติ่งที่กำลังแข็งชันเพราะแรงอารมณ์ดังเดิม
ฟันขาวขบกัดเบาๆสร้างความรู้สึกเสียงซ่านให้กับร่างเล็กด้านใต้เป็นอย่างมาก
“อื้อ…”
ใบหน้าหล่อเงยขึ้นสบดวงตาหวานช้ำอีกครั้งก่อนจะมอบรสจูบหนักหน่วงให้กับคนตรงหน้า
มือหนาเลื่อนมาปลดเสื้อของตนออกจนเหลือเพียงอกเปลือยเปล่า
แล้วจึงบดตัวลงแนบชิดกับร่างด้านใต้จนแทบไม่เหลือช่องว่าง
ความเหยียบเย็นของแอร์ชั้นดีไม่ได้ช่วยดับความร้อนรุ่มของทั้งสองร่างบนเตียงแต่อย่างใด
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นทันทีที่มือขาวซีดเลื่อนต่ำลงไปที่บั้นท้ายของตน
มือหนาปัดผ่านเพื่อปลดกางเกงที่ใส่ไว้ก่อนจะจับโยนลงไปที่พื้นล่างเตียงให้พ้นทาง
“อา..เต๋า...”
มือขาวซีดลูบผ่านต้นขาขาวพร้อมทั้งบีบคลึงสะโพกมนไปด้วยทุกครั้งที่ปัดผ่านทำให้ร่างด้านใต้นั้นบิดเร้าไปด้วยความเสียวซ่าน
มือเล็กจิกลงบนแผ่นหวังกว้างเพื่อระบายอารมณ์จากทุกสัมผัส
มือขาวเลื่อนผ่านไปตามต้นขาด้านในก่อนจะย้ายไปกอบกุมส่วนแข็งขืนที่กำลังตื่นตัวเต็มที่ของร่างด้านใต้ตน
“ฮึก อ่า เต๋า…~”
มือหนาขยับไปตามความอึดอัดของร่างด้านใต้
มือเล็กเลื่อนขึ้นไปขย้ำเส้นผมหนานุ่มของร่างด้านบนตัวเองจนหยุงเหยิงไปหมด
เสียงครางหวานหูที่เปร่งออกมาทุกครั้งที่มือหนาขยับ
ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงเรื่อเพราะแดงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้าอย่างต่อเนื่อง
ฝันขาวขบกัดริมฝีปากของตนจนของเหลวสีแดงไหลซิบออกมา
ทำให้ใบหน้าหล่อคมเลื่อนขึ้นไปตวัดปลายลิ้นไล้เลียของเหลวแดงนั้นก่อนจะบดจูบร้อนลงบนริมฝีปากร่างด้านใต้อีกรอบ
ร่างเล็กที่ถูกปลุกเร้าจนถึงขีดสุด
เสียงครางหวานเปร่งออกมาแม้ว่าริมฝีปากนั้นจะถูกปิดทับอยู่
ร่างเล็กกระตุกไหวปลดปล่อยความอึดอัดของตนจนมือขาวซีดนั้นเปียกชื้น
“ฮึก! อื้ออ..!”
ไม่ปล่อยให้ร่างเล็กได้หอบหายใจพักเหนื่อย
นิ้วมือขาวที่เปียกชุ่มนั้นไล้วนไปตามช่องทางหลังของร่างที่กำลังหอบหายใจตัวโยนสร้างความวาบไหวจนเผลอครางเสียงหวานออกอย่างห้ามไม่ได้
“คชา...เต๋า ไม่ไหวแล้ว...”
เพราะเสียงแหบพร่าที่เปร่งออกมาข้างๆใบหูร่างด้านใต้
เรียวขาเล็กตั้งชันขึ้นทันทีโดยอัตโนมัติ
มือเล็กย้ายไปวางบนเนินไหล่ขาวของร่างด้านบนตนก่อนจะออกแรงบีบเบาๆ
“ทนหน่อยนะ...”
เรียวนิ้วชื้นที่ไล้วนอยู่นานแทรกเข้าหาความคับแน่นที่ช่องทางหลังช้าๆ
ใบหน้าหวานบิดเบือนด้วยความเจ็บปวดแต่ก็พยายามจะกลั้นเสียงร้องของตนไว้ด้วยการเม้มริมฝีปากเข้าหากันจนแน่น
เรียวนิ้วยาวเพิ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความเจ็บปวดที่กำลังเล่นงานร่างบอบบาง
เสียงร้องหวานหูหลงออกมาทันทีเมื่อเรียวนิ้วที่ค้างอยู่ภายในตัวนั้นขยับเปิดทาง
“อึกก อื้ออ!”
เรียวนิ้วยาวถูกถอดถอนออก
ก่อนจะแทนทีด้วยความแข็งขืนของร่างสูงขาว
ใบหน้าหวานชื้นเหงื่อส่ายไปมาด้วยความเจ็บ
หยดน้ำตาไหลออกมาถูกมือขาวซีดปาดซับออกไปจนหมด ก่อนจะตามลงมาด้วยการพรมจูบบางเบาทั่วใบหน้าหวาน
“ฮึก!”
ริมฝีปากบางยิ่งเม้มเข้าหากันแน่นขึ้นเมื่อร่างสูงขาวด้านบนเริ่มขยับไหวตัว
ความเจ็ยแปล๊บที่แล่นเข้ามาทำให้มือบางเลื่อนออกไปดึงทึ้งผืนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่
แรงกระแทกจากร่างด้านบนเริ่มถี่รัวขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างด้านใต้นั้นเริ่มผ่อนคลาย
เสียงครางหวานปะปนไปกับเสียงเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
เรียวแขนเล็กยกขึ้นกอดลำคอแกร่งแน่นเพื่อเป็นการผ่อนคลายความเจ็บปวดที่ผสมปนเปไปกับความรู้สึกวาบไหว
ร่างสูงขาวขยับเร่งจังหว่ะขึ้นเรื่อย
ร่างเล็กพยายามจับจังหวะเพื่อให้เข้ากับการกระแทกของร่างนั้นเพื่อหวังจะได้ผ่อนคลายความเจ็บปวดลง
“อา..คชา...”
“ฮึกก เต๋า อื้ออ...~”
ร่างสูงของเต๋ายังคงกระแทกหนักลงเพื่อจะปลดปล่อยอารมณ์อึดอัดของตนไม่นานนัก
ใบหน้าหล่อก็ผ่อนลงก่อนจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยความอึดอัดของตน เสียงครางต่ำบ่งบอกว่าเขาพอใจกับสัมผัสเหล่านี้มากเพียงใด
ใบหน้าหวานซบลงกับลำคอขาวด้วยความเหนื่อยล้า
ท่อนแขนเล็กปล่อยออกจากลำคอแกร่งพร้อมกับทิ้งหัวลงกับหมอนสีขาวใบโต
เสียงหอบหายใจเพราะความเหนื่อยล้า
ร่างของเต๋าทรุดลงทาบทับร่างเล็ดด้านใต้ มือหนายกขึ้นซับเหงื่อชื้นที่บริเวณขมับขาว
รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถมองเห็นได้
“คชา...คชายังรักเต๋าใช่ไหม?”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบนิ่ง
มือเล็กเลื่อนไปก่อนจะกอบกุมมือขาวซีดไว้แนบแน่น
“เต๋า...ชารักเต๋ามากนะ...”
เสียงสะอื้นเบาๆจากร่างที่ถูกทาบทับไว้
เต๋าเลื่อนตัวออกไปนอนที่พื้นเตียงด้านข้าง พร้อมทั้งมองไปยังใบหน้าหวาน...
สายตาคมเหลือบขึ้นไปมองนาฬิกาบนหัวเตียง
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว มือหนาเลื่อนไปลูบศรีษะเล็กอย่างเบามือ...
“นอนพักเถอะนะเด็กดี...”
ราวกับโดนร่ายเวทย์มนต์ ดวงตาเรียวหลับพริ้มแทบจะทันที
ลมหายใจที่ผ่อนอย่างสม่ำเสมอคงเพราะเนื่อยจากกิจกรรมเมื่อครู่เลยเป็นผลให้ร่างนี้หลับลงได้โดยง่าย...
“รักเต๋ามากซินะ คชา...”
“ถ้าอย่างนั้นก็รักเต๋าให้มาก
และรักให้ตลอดไปแล้วกันนะ...คชา…”
------------------------------------------------
อ่ะ ฮะ เอ้ย ยย ย อย่าลืม กลับไปเม้นให้ด้วยนะเจ้าคะ
ยืมวิธีซ่อนเอ็นซีมาจากท่านป้าเลี่ยง หวังว่าคงไม่ว่ากันเนอะขอยืมวิธีนะคะ ~
อ๊ะๆ อย่าลืมกลับไปเม้นนะจ๊ะ <3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น